ปล่อยให้ริดสีดวงกำเริบนั้นใครต้องพลอยทุกข์ไปด้วย ???
1 ตัวเราเอง
เจ็บจนทำงานไม่ได้ เสียการเสียงาน ทำงานไม่เต็มที่ เสียรายได้ งานไม่ราบรื่น นั่ง เดิน เหิน ลำบาก ขาดงาน ขาดเงิน นอนพัก นอนซม จนทำลายอาชีพตน หาเงินรักษาตัวเท่าไรก็ไม่พอ
2 พ่อ แม่
ส่วนใหญ่ พ่อแม่ มักไม่ค่อยรู้ ถ้ารู้จะเป็นทุกข์กับลูกมาก ๆ เพราะไม่มีพ่อแม่คนไหนยอมให้ลูกเจ็บไข้ได้ป่วยแล้วไม่เหลียวแล พ่อแม่ ต้องหาเงินหาทอง มารักษาตัวให้หาย ไม่มีก็ไปกู้ ไปหยิบยืมเขามาก่อน เพื่อจะให้ลูกหาย อะไรที่ทำเพื่อลูกได้ พ่อแม่พร้อมเสมอ พ่อแม่นั้นคือพระประจำบ้าน ไม่ว่าลูกจะโตขนาดไหน พ่อแม่ก็เห็นลูกเป็นเด็กเสมอ
3 คู่ชีวิต
บางคนเป็นเสาหลักของครอบครัว หาเลี้ยงปากท้องคนหลายคน เวลาล้มหมอนนอนเสื่อ เจ็บป่วยมา คนใกล้ตัวต้องพลอยลำบากไปด้วย ทุกข์ทั้งกาย ทุกข์ทั้งใจ ตัวเองเจ็บป่วยขึ้นมา คนที่เป็นคู่ชีวิตก็ต้องดิ้นรนช่วยกัน หยุดงานหยุดการ พาไปหาหมอ พาไปรักษา อยากให้หาย ก็ยอมทำทุก ๆ อย่าง เพื่อให้ได้เงินมารักษาให้หาย อะไรก็ได้ ขอให้หาย ทำหมด
4 ลูก ๆ
บางคนเจ็บป่วยแล้วไม่บอกลูก กลัวลูกจะห่วง หารู้ไม่ เวลามันกำเริบมา มันลำบากคนอื่นแค่ไหน บางคนดื้อด้าน ลูกบอกให้ไปตรวจไม่ไป จะพาไปตรวจไม่ไป คิดว่าตัวเองเป็นแค่นี้ เดี๋ยวมันก็หาย พอกำเริบมาเท่านั้นแหละเป็นทุกข์ของลูก ลูกกลัวพ่อแม่จะเป็นโรคร้าย แต่พ่อแม่นั้นคิดว่าแค่นี้ไม่เห็นเป็นไร และไม่อยากรบกวนลูก เข้าข่ายไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา คิดว่าตัวเองเก่งแล้ว อย่ามาสอน ไม่รักตัวเองก็รักและคนรอบข้างของตัวเองด้วย ไม่มีลูก ๆ คนไหนปล่อยให้พ่อแม่ตนเป็นโรคแล้วอยู่เฉยนิ่งนอนใจได้หรอก ส่วนใหญ่ก็กินไม่ได้นอนไม่หลับกันทั้งนั้น ฉนั้นแล้วอย่าทำให้คนอื่นเขาต้องทุกข์เพราะการดื้อดึงดื้อด้านของตัวเลย
5 คนสนิท ญาติ เพื่อน คนอื่น ๆ ที่รู้จักมักจี่
ด้วยโรคนี้มันเป็นโรคในที่ลับ คนเรามักจะอาย ไม่บอกใคร บางคนไม่อยากให้คนอื่นรู้ ว่าตัวเองเป็น เพราะอาย แต่พอมันกำเริบหนัก ๆ คนรอบข้างก็พลอยทุกข์ใจไปด้วยเสมอแหละ ล้มหมอนนอนเสื่อ ใครเล่าจะไปดูแลหละ เจ็บป่วยขึ้นมา ใครจะเฝ้าหละ
ไม่ว่าจะโรคอะไรก็ตาม อย่าดื้อด้าน พบหมอรักษาโดยด่วน
การเป็นโรค ไม่ว่าจะโรคอะไรก็ตาม
ให้นึกว่าเมื่อเป็นแล้ว เรานั้นคือ " คนป่วย " นะ
รีบรักษาให้หาย จะได้ไม่เป็นภาระของคนรอบข้างเรา