ถอนราก ถอนโค่น
ถอนราก ถอนโค่น
การรักษาริดสีดวงแบบใช้ยานั้น มีข้อดีตรงที่ยาสามารถแทรกซึมเข้าจัดการกับระบบไหลเวียนเลือดได้ดี
โดยเฉพาะการรักษาริดสีดวงแล้วนั้น โรคนี้ ปัญหาตรง ๆ เลยคือเลือด
ริดสีดวง มักมีระบบไหลเวียนเลือดมาหล่อเลี้ยงเสมอ หลอดเลือดที่ว่า เป็นความผิดปกติระดับเซลล์ของหลอดเลือด อาจมีทั้งหลอดเลือดดำ หลอดเลือดแดง ที่เกี่ยวข้องกันไปหมด
หลอดเลือดดำที่อักเสบ ก็มีทั้งหลอดเลือดดำใหญ่ และ หลอดเลือดดำฝอย
เปรียบดังต้นไม้
หลอดเลือดดำใหญ่ = รากแก้ว
หลอดเลือดดำฝอย = รากฝอย
การรักษาที่เป็นหัวใจสำคัญ ต้องจัดการระบบไหลเวียนเลือดให้ได้ เก็บรายละเอียดในส่วนหลอดเลือดที่เป็นท่อน้ำเลี้ยงมายังหัวริดสีดวงได้ แค่นี้ง่าย ๆ จิ๊บ ๆ
ตีโจษท์แตกในการรักษาก็จบง่ายๆ ครับ
ผมไม่ได้บอกว่าผ่าตัดไม่ดีนะครับ แต่การผ่าตัดมันเหมาะกับบางชนิดของตัวโรค แต่ไม่ทุกอาการโรคเสมอไปครับ
ผ่าตัด ก็ได้บางชนิดของโรค แต่ไม่ได้จัดการที่ระบบไหลเวียนเลือดก็เท่านั้น โอกาสที่หลอดเลือดเหล่านั้นจะอักเสบและกำเริบขึ้นมาอีกก็มี
ที่สำคัญ การผ่าตัด ไม่สามารถลงมีดไปกรีดเอาเส้นเลือดที่เรียกว่ารากมันออกมาไม่ได้ แต่ยามันแทรกซึมลงไปยังระบบไหลเวียนเหล่านั้นได้
ข้อนี้ตีโจทษ์ต่างกัน เหมือนต้นไม้ 1 ต้น
ผ่าตัด เหลือ ตอ เหลือราก
รักษาด้วยยา ยาสามารถแทรกซึมเข้าราก แล้วถอนรากและโคนออกมาได้โดยง่ายดาย
ยิ่งแล้วใหญ่คือการรัดหัว
ไม่มีประโยชน์เลย เพราะแก้แค่ปลายเหตุ และอาจต้องทำหลายครั้ง
เช่นเดียวกับการตอนกิ่งต้นไม้ ยังงัยก็ต้องเหลือราก เหลือ ลำต้น เหลือโคนมันอยู่ดี
ผ่าตัดก็วัดใจหมออยู่ดี ไม่มีหมอคนไหนใจดีผ่าออกหมดหรอก เพราะการผ่าออกหมด เท่ากับว่าต้องคว้านรูทวารออกหมด ฉันใดก็ฉันนั้น เมื่อคว้านรูทวารก็โบ๋ กลั้นถ่ายไม่ได้ เพราะเสียกล้ามเนื้อหูรูดไป จึงจำเป็นต้องผ่าแค่บางส่วนออกเพื่อให้เหลือกล้ามเนื้อหูรูดในการกลั้นถ่าย ฉนั้น ก็ต้องเหลือตัวโรคอยู่แน่นอน แล้วหมอเค้าก็จะนัดผ่าใหม่อีกรอบ เพื่อเอาที่เหลือออกอีกอยู่ดี
ริดสีดวงนั้นคือระบบไหลเวียนเลือด ตีโจทษ์การรักษาได้ถูกก็หายขาดได้โดยง่าย ใช้ระยะเวลา สั้น ๆ ไม่เลี้ยงไข้ให้เสียเวลา มันบาปปล่าว ๆ
สู้รักษาให้หายครั้งเดียว คนไข้หาย หมอก็ได้บุญ
คนไข้หาย บอกต่อไป คนไข้ก็ได้ทำบุญต่อ ๆ กันไป