ชนิดของริดสีดวง
หมอโบราณสมัยก่อนได้ตรวจโรคแล้วมีการแยกชนิดของตัวโรคไว้หลายประเภท ซึ่งเปรียบเทียบตัวโรคนั้น ๆ ขึ้นมา เพื่อให้เห็นภาพของอาการโรคชัดเจนขึ้น และเป็นการแยกประเภทให้ง่ายต่อการรักษาได้ถูกต้องแม่นยำยิ่งขึ้น เช่น
1 เดือยไก่ ลักษณะ เป็นติ่งยื่นออกมาคล้ายกับเดือยไก่(คล้ายอวัยวะที่ยื่นอยู่ตรงบริเวณขาของไก่ชน) เวลาขับถ่ายจะยื่นออกมาเป็นติ่ง อาจมีติ่งเดียว หรือหลาย ๆ ติ่งได้ คลำ สัมผัสได้ อาจไม่เจ็บ ไม่ปวด ถ้ามีการอักเสบจะมีการเจ็บปวดขึ้นมา
2 กลีบมะเฟือง ลักษณะ คล้ายดั่งกลีบมะเฟือง(มองด้านขั้วหรือด้านปลายของลูกมะเฟือง) เวลาขับถ่าย ทวารหนักจะบีบรัดตัวให้อุจจาระออกมา อาจรีดออกมาดั่งฝักมะขาม จะถ่ายออกมากะปริดกะปรอย เจ็บปวด แสบร้อนทวารหนักเป็นยิ่งนัก บางครั้งรู้สึกว่าถ่ายไม่สุดอยู่เนือง ๆ
3 หัวคุด ลักษณะ ไม่มีติ่งยื่นออกมา ตัวโรคอยู่ภายใน จะปวดเบ่งถ่ายอยู่บ่อย ๆ ปวดหน่วง ๆ ในรูทวารหนัก ถ่ายออกมาจะรู้สึกมีอะไรค้างอยู่ภายใน ถ่ายออกไม่สุด
4 หัวเลือด ลักษณะ เป็นริดสีดวงที่มีความรุนแรงมากที่สุด เกิดจากเส้นเลือดได้รับการเสียดสี หรือการกดทับ จนเกิดการอักเสบขั้นรุนแรง หรือเป็นการอักเสบของผนังทวารหนักแล้วมีเส้นเลือดดำโป่งพอง อักเสบ บวม แดง ร้อน แสบ มีเลือดออก ผู้ป่วยที่เป็นริดสีดวงชนิดนี้ส่วนใหญ่จะซีด เลือดจาง เนื่องจากการเสียเลือดอยู่เป็นประจำ ผอม วิงเวียน และ วูบได้ง่าย หรือความดันโลหิตมักจะต่ำ
5 บานทะโรค ลักษณะ อยู่ภายนอก คลำ สัมผัสได้ชัดเจน เป็นระยะสุดท้ายของริดสีดวง อาการจะมีติ่งยืนรอบ ๆ ทวารหนัก บานเต็มรูทวารหนัก ถ้าเป็นไม่รุนแรงอาจไม่มีเลือดออกมา แต่ถ้ารุนแรงหรืออาจมีหัวเลือดเข้ามาแทรกด้วยแล้ว ตัวโรคยิ่งทวีคูณความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
โรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้แก่ โรคกระเพาะอาหาร โรคกรดไหลย้อน โรคสมรรถภาพทางเพศเสื่อม โรคติดเชื้อในกระแสเลือด โรคเลือดจาง
สุดท้าย โรคที่มนุษย์ทุกคนไม่อยากเป็นคือ " มะเร็ง" ผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งรูทวารหนักมีความทุกข์ทรมาณมาก บางคนต้องปิดรูทวารหนัก ขับถ่ายทางหน้าท้อง ไปไหนต้องอุ้มเอาถุงอุจจาระตัวเองไปด้วยเหมือนตกนรกทั้งเป็น
ถามว่า ทุกคนสามารถเป็นมะเร็งได้หรือไม่ คำตอบคือ มนุษย์ในโลกใบนี้มีเชลล์มะเร็งในร่างกายทุกคน ทุก ๆคน ล้วนคนมีโอกาสเป็นมะเร็งได้ทั้งหมด อยู่ที่การดูแลสุขภาพของตัวเราเอง การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การใช้ชีวิตประจำวัน ลดภาวะเสี่ยงต่อโรคมะเร็งต่าง ๆ ไม่มีใครจะสามารถมารับประกันได้ว่าเราจะไม่เป็นมะเร็ง เพราะฉนั้นสุขภาพที่ดีหาซื้อไม่ได้ อยากได้ ต้องหมั่นดูแลเอง ถ้ารู้ตัวว่าตัวเองเป็นโรคก็รีบพบหมอ หาแนวทางการรักษา เพราะปล่อยไว้ ชะล่าใจ นึกว่าตัวเองเป็นไม่มาก หายเองได้ ไม่รีบรักษาสุดท้ายต้องมาเสียใจและทุกข์จากการที่ตัวเราเองปล่อยปะละเลย ไม่ใส่ใจ